ขอเชิญเพื่อน ๆ ชาวพันทิพย์ ร่วมแบ่งปันเรื่องราว ความประทับใจในการช่วยเหลือผู้อื่นคนละ 1 หรือหลาย ๆ เรื่องราวที่นี่ครับ

ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนใจดี ชอบให้ความช่วยเหลือคนอื่นเสมอตามกำลังที่จะทำได้เสมอ มันเป็นความสุขทางใจอย่างหนึ่งที่เราต้องเป็นคนกระทำเท่านั้นถึงจะรู้สึกได้ เป็นความรู้สึกที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ยากแต่มันจะทำให้เรามีความสุขไปหลาย ๆ วัน และเป็นความทรงจำที่ดีที่เราจำได้เสมอไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ สำหรับผมเหตุการณ์ที่ต้องช่วยเหลือผู้อื่น ผมกระทำมานับไม่ถ้วน แต่ผมจะขอแบ่งปัน 4 เหตุการณ์ที่ผมคิดว่าบุคคลที่ผมให้ความช่วยเหลือคงจะประทับใจไปหลายวัน ในสมัยผมเรียนมหาวิทยาลัยครับ
  เริ่มกับเหตุการณ์ที่ 1 เกิดขึ้นสมัยที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 2 มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนเป็นมหาวิทยาลัยบ้านนอกจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือนะครับ ตัวมหาวิทยาลัยอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองประมาณ 20 กิโลเมตรได้ ช่วงที่ผมได้ให้ความช่วยเหลือ เกิดขึ้นประมาณเดือน เมษายน ปี 2550 ผมมีธุระต้องเข้าไปซื้อของใช้ในตัวเมืองระหว่างขับรถจักรยานยนต์กลับ เจอพี่ผู้ชายคนหนึ่ง อายุน่าจะรุ่นพี่ 5-10 ปี ตอนนั้นผม 20 ย่างเข้า 21 กำลังเข็นรถจักรยานยนต์ ผมเลยขับไปแล้วจอดทักสอบถามได้ความว่าน้ำมันหมด เข็นไปหาปั้มเติม ซึ่งพื้นที่ตรงนั้นห่างจากปั้มเติมน้ำมันประมาณ 4-5 กิโลเมตรได้ ก็คุยกับพี่เค้าอยู่สักพักหาวิธีว่าจะทำอย่างไร สุดท้ายก็คือผมจะใช้เท้าซ้ายดันท่อรถพี่เค้าและไปด้วยกัน ผมขับรถไปพร้อมกับเหยียบท่อไปเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตรกว่า ๆ ทางเรียบบ้าง เนินเล็ก ๆ บ้าง จนสุดท้ายส่งพี่เค้าเข้าปั้มได้ พี่เค้าก็ขอบคุณผมยกใหญ่ จะให้เงินด้วยแต่ผมไม่รับ เสร็จแล้วผมก็ขับรถกลับหอ ขาซ้ายแทบเป็นตะคริว ปวดไป 2-3 วันครับ
  เหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 เหมือนกัน แต่เป็นช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือน มิถุนายน วันนั้นผมมีเรียนช่วงเช้าเลิกเที่ยง บ่ายไม่มีเรียนต่อ หลังจากเลิกเรียนก็นั่งรถโดยสารประจำของมหาวิทยาลัย (มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนเค้าห้ามให้นักศึกษาใช้รถจักรยานยนต์บนมหาวิทยาลัยครับ) ออกมาหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัย หน้ามหาวิทยาลัยผมถ้าเราขับรถออกมาจะต้องเลี้ยวซ้ายและจะมี U-Turn ทางขวาใต้สะพานลอย เลยไปหน่อยด้านขวาจะเป็นหอพักนักศึกษา แต่แถวนี้จะค่าหอพักจะแพงประมาณ 2500-3000 ส่วนผมเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนเดือนละ 500 สบายใจไป เข้าเรื่องต่อนะคับ ระหว่างที่ขับมาจะถึง U- Turn ผมขับช้า ๆ กางร่มไปด้วย เพราะฝนตกปรอย ๆ ขณะนั้นผมก็สังเกตเห็นนิสิตหญิงคนหนึ่ง ขับ Mi-o แซงผมไป(สมัยนั้น กำลังฮิตครับรุ่นนี้ ส่วนผมขับโซนิค) ไปจอดตรง U- Turn ขออธิบายภาพก่อนนะครับ นิสิตหญิงใส่ประโปรงผมไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไรแต่เป็นกระโปรงที่ใส่แล้ว ขาจะแนบติดกัน ตรงหน้าขาเป็นตะกร้าเสื้อผ้า ผมเข้าใจว่าคงไปซักแห้งมา มือซ้ายถือร่ม มือขวาจับคันเร่ง ผมก็ค่อย ๆ ขับตามแต่ผมอยู่ซ้ายสุด ส่วนเค้ากำลังจะข้ามไปอีกเลน เพื่อเข้าหอพัก ผมคิดในใจ ตอนออกตัวไม่น่าจะไปได้ และก็เป็นอย่างที่คิด จังหวะออกตัวจะข้ามไปอีกฝั่ง ไปได้สัก 5 เมตร ปรากฎว่ารถจักรยานยนต์ล้มครับ ตะกร้าผ้ากลิ้ง ผมเลยต้องรีบบิดไปชิดเลนส์ขวาเพื่อที่จะข้ามฝั่งไปอีกฝั่งแล้วค่อยวิ่งมาช่วย โชคดีที่จังหวะนั้นไม่มีรถวิ่ง ถนนที่นี่เป็นถนน 4 เลนส์ ปกติรถจะวิ่งเยอะ ผมรีบวิ่งไปประคองรถ เก็บถังเสื้อผ้า แล้วจูงรถมาตรงที่รถผมจอด ไม่รู้ว่าเป็นพี่หรือเพื่อน แต่มหาวิทยาลัยผมถ้าจะออกมาอยู่หอนอกต้องเรียนปี 2 ขึ้นไป ขอให้ใช้คำว่าเพื่อนละกันนะครับ เพื่อนนักศึกษาคนนั้นเจ็บเข่าและข้อศอกนิดหน่อย ผมก็สอบถามหอพักอยู่ตรงไหน เค้าก็ชี้ให้ดูซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุแค่ประมาณ 200 เมตรได้ ผมเลยอาสาไปส่งทีแรกเขาบอกไม่เป็นไร แต่เห็นสภาพแล้วแม้ว่ายังพอขับรถได้แต่ต้องขนตะกร้าผ้าไปอีก คงไม่ไหวแน่นอน สุดท้ายผมเลยให้เค้าขับรถเค้าไปเลย แล้วผมจะขับตามพร้อมตะกร้าผ้า เพราะถ้าเค้าต้องมือซ้ายกางร่มไป ขาประคองตะกร้าผ้า ขวาประคองรถคงล้มอีกแน่ ๆ พอผมเอาตะกร้ามาวางช่องระหว่างขา ร่มผมไม่ได้กางแล้วครับ ขับรถตากฝนตามเค้าไปถึงหอเอาตะกร้าลงให้ แล้วขับวนกลับมา U-Turn กลับหอพักตัวเอง เปียกครับงานนี้แต่ก็สุขใจ แอบคิดในใจเพื่อนนักศึกษาหญิงคนนี้ดีจริง ๆ เพราะตะกร้าผ้าที่ผมเห็น Boxer หลายตัวเลย คนเป็นแฟนโชคดีมาก ๆ
   เหตุการณ์ที่ 3 เกิดขี้นตอนปี 3 วันนั้นเพื่อนที่พักอยู่หน้ามหาวิทยาลัยมาเที่ยวหอผม นั่งเล่นเกมส์ ดูหนังกันถึง 3 ทุ่มกว่า ผมเลยขับรถจักรยานยนต์มาส่งเพื่อนที่หอ งานนี้มีสงสารปนฮานิด ๆ ครับ ช่วงกลางคืนถนนเส้นนี้จะมีรถพ่วงวิ่งเยอะ เพราะเป็นถนนหลัก ผมกับเพื่อนก็ไปเรื่อย ๆ ผมขับเพื่อนซ้อนท้าย ซักพักเจอคนเมาเข็นรถ เข้าไปกลางถนนแล้วก็เป๋ออกมาริมถนน ผมก็ขับเลยไปสัก 100 เมตรได้ก็คุยกับเพื่อน เฮ้ย ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ว่ะเดี๋ยวถูกรถใหญ่ชน สุดท้ายสวนเลนกลับมาหาเค้า เมาครับพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องละ สอบถามกันไปมาได้ความว่า บ้านอยู่อำเภอของอีกจังหวัดแต่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยที่ผมเรียนมากนักประมาณ 40 กิโลเมตร จะกลับบ้านแต่น้ำมันหมด แฟนทิ้ง แฟนเอาทุกอย่างไปหมด ทั้งโทรศัพท์ กระเป๋าตังส์ เหลือเงินแค่ 100 กว่าบาท ซื้อเหล้าดื่มละ เมาไม่มีเงินเติมน้ำมันก็ปรึกษากันกับเพื่อนทีแรกเพื่อนซ้อนท้ายผมให้เพื่อนเหยีบรถพี่เค้า พี่เค้าเป็นคนขับรถเค้าเอง แต่แค่ลองเท่านั้นแหละ ลงข้างทางครับ ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก เลยเปลี่ยนให้เพื่อนขับรถพี่เค้า แล้วให้เค้าซ้อนท้าย ส่วนผมก็ถีบแทนอยากกจะบอกว่าหนักยิ้ม เพื่อนผมก็ตัวใหญ่กว่าผมมาก พี่ที่เมาอีก น้ำหนักรถอีก ถีบมาตั้งกิโลกว่า ๆ จนถึงปั้มหลอด ยังโชคดีที่ปั้มไม่ปิด ผมไม่ได้เอากระเป๋าตังส์มาเลยยืมเงินเพื่อนเติมน้ำมันให้พี่เค้า ให้พี่เค้าล้างหน้า ล้างตา จนหายมึน ก็คุยกันไป ปลอบกันไป ตามประสาลูกผู้ชาย ผมกับเพื่อนก็ให้กำลังใจจนพี่เค้าได้สติ ทีแรกอยากจะตาย กลายเป็นคนที่เข้มแข็งทันที มีเหตุผลมากขึ้น ลองทดสอบละยังมีสติขับรถได้อยู่ก็เลยปล่อยให้พี่เค้าขับกลับบ้าน พี่เค้าเป็นคนดีคนหนึ่งเลยครับ ตอนจะกลับย้ำแล้วย้ำอีก น้องเรียนสาขาอะไร เดี๋ยวพี่กลับบ้านไปพี่จะมาชวนไปเที่ยวบ้าน พี่จะเลี้ยงข้าวผมกับเพื่อนก็ขอบคุณพี่เค้า แล้วอวยพรให้พี่เค้ากลับบ้านโดยสวัสดิภาพ   เหตุการณ์นี้เป็นอีกเหตุการณ์ที่ผมประทับใจครับ
    เหตุการณ์ที่ 4 เกิดขึ้นตอนผมเรียนใกล้จะจบแล้ว จริง ๆ ก็จบแล้วแหละครับ หลังจากสอบโปรเจคจบเสร็จอาจารย์ให้อยู่ช่วยเหลือและให้คำแนะนำเพื่อนกลุ่มอื่น น่าจะเป็นเดือนพฤษภาคมปี 53 เพื่อน ๆ นัดกันทำโปรเจคที่หอเพื่อนผมที่อยู่หน้ามหาวิทยาลัยคืนนั้น นั่งคุย นั่งทำงานกันจนถึง 4 ทุ่ม เกือบ 5 ทุ่ม ผมเลยขอตัวกลับเพราะหอผมอยู่ห่างออกไปเกือบ 2 กิโลเมตรได้ ดึกแล้วกลัวผีครับ 55++ จังหวะแว้นผ่านหน้ามหาวิทยาลัย บังเอิญไปเจอน้องผู้หญิงคนหนึ่งยืนเหม่อ พร้อมด้วยกองข้าวของ เครื่องใช้อีก พอสมควรทีเดียวอยู่ตรงนั้น ผมเลยจอดเลยสอบถาม น้องเค้าก็เล่าให้ฟังเพิ่งจบปีหนึ่ง จะย้ายออกมาอยู่หอนอก ลงจากรถโดยสารจากสุโขทัยมารอเพื่อนได้ 1 ชั่วโมงละโทรหาเพื่อนไม่ติดเลย ผมเลยถามหออยู่แถวไหนล่ะ น้องเค้าก็บอกไม่ไกล ผมก็เดินสำรวจสัมภาระน้องเค้าแล้ว รถจักรยานยนต์ผมน่าจะขนได้หมดภายในรอบเดียว แม้จะทุลักทุเลไปบ้าง ดึกแล้วงั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งเอง น้องเค้าก็รีบตอบ พี่ค่ะของเยอะอย่างนี้เอาไปไม่ได้หรอก ผมก็บอกว่าได้ก็จัดแจง ทดลองวางนี่ วางนั่น สุดท้ายก็ลงตัวน้องเค้าซ้อนท้าย ด้านหน้าผมก็ถุงสัมภาระ กระทะ หม้อหุงข้าว ฯลฯ ค่อย ๆ คลานไปจนถึงหอก็เอาของลงไปไว้หน้าทางขึ้นหอ ผมก็เดินมาขึ้นรถ น้องเค้าก็ตามมาขอบคุณยกใหญ่ ขอบคุณแล้วขอบคุณอีก ผมก็บอกไม่เป็นไร น้องเค้าก็ถามพี่ชื่ออะไร เรียนสำนักไหน สาขาอะไร ปีไหน ผมตอบสั้น ๆ พี่ชื่อ .. ครับ พี่เพิ่งกำลังจะจบ น้องเค้าก็ทำหน้าเซ็งนิด ๆ สักพักเหมือนนึกอะไรได้วิ่งกลับไปที่กองสัมภาระ แล้วหยิบถุงใหญ่ๆ มา 2 ถุง อะพี่หนูให้ ขนมถั่วทอด หนูเอามา 3 ถุงให้พี่ 2 ถุง ตอนแรกผมไม่รับ เพราะเข้าใจว่าน้องเค้าคงตั้งใจเอามาฝากเพื่อน ๆ เลยปฏิเสธไป น้องเค้าก็สาธยายยาวเลยครับ ขนมนี่นะพี่เป็น โอทอป ประจำจังหวัดหนูเลยนะ ถ้าพี่ไม่รับหนูจะเสียใจ สุดท้ายอะ งั้นพี่รับก็ได้หนูจะได้สบายใจ ปกติผมไม่ค่อยทานขนมประเภทนี้ พอรับมาเลยนำไปแบ่งเพื่อนๆ  ทานในวันรุ่งขึ้น เพื่อน ๆ ก็ถามไปเอามาจากไหนผมก็อำขำ ๆ เมื่อวานกลับหอดึกเจอน้องผู้หญิงหน้ามหาวิทยาลัย ไปปล้นน้องเค้ามา ก็เฮฮากันไป สำหรับผมยังมีอีกเยอะครับ เรื่องราวแบบนี้ แต่นี่ก็ยาวมากแล้วขอจบการพิมพ์เรื่องราวของผมเพียงเท่านี้นะครับ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และหวังว่าผมจะได้อ่านเรื่องราวดี ๆ จากเพื่อน ๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ ร่วมแบ่งปันความสุข ความประทับใจ แบ่งปันความฝัน และรอยยิ้ม กันได้นะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่